หากชีวิตเราต้องยืนยาวถึง 100 ปี ควรวางแผนชีวิตอย่างไร?

“คุณคิดว่า ตัวคุณในอายุ 70, 80 หรือ 100 จะคิดยังไงกับตัวคุณในตอนนี้?”
เขาจะมองกลับมาหาคุณด้วยความโกรธเคืองหรือเปล่า?

หนังสือ The 100-Year Life มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการด้านการแพทย์และเทคโนโลยี ทำให้คนมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวมากขึ้นถึง 100 ปี และสิ่งที่ตามมาคือ เมื่อเราอายุขัยมากขึ้น

“การเกษียณตอนอายุ 60 ยังจำเป็นอยู่หรือเปล่า?”
แล้วเราควรพัฒนาทักษะอะไรเพิ่มบ้าง?

  1. พัฒนาการทางด้านการแพทย์ทำให้มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยถึง 100 ปี

“ตั้งแต่ปี 1840 เป็นต้นมา ในทุกๆ ทศวรรษ
อายุขัยของประชากรบนโลกจะเพิ่มขึ้น 2-3 ปี”

มนุษย์ในยุคอดีตอายุเฉลี่ยสั้นกว่าปัจจุบันมาก สาเหตุหลักมาจากเรื่องโภชนาการอาหารและโรคติดเชื้อ เช่น โรคโปลิโอ (โรคติดต่อจากเชื้อไวรัส) โดยผู้ที่ติดเชื้อ จะถูกไวรัสเข้าไปทำลายระบบประสาท ส่งผลให้เกิดภาวะอัมพาต พิการ หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตในที่สุด

ซึ่งปัจจุบันโรคนี้ได้รับการกำจัดแทบทุกประเทศทั่วโลก ผ่านการฉีดวัคซีนตั้งแต่วัยเด็กๆ แล้ว ด้วยบริการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้ทารกที่เกิดหลังปี 2014 มีโอกาสประมาณ 50% ที่จะมีอายุมากถึง 100 ปี

ดังนั้น เมื่อเรามีอายุขัย 100 ปี
การนิยามสำหรับสิ่งต่างๆ จะต้องเปลี่ยนไป เช่น  คำว่า ‘วัยกลางคน’ เราควรใช้ตอนอายุ 50 ปีแทน


  1. ทบทวนเรื่องการเงินให้ดี

การเกษียณอายุ 60 ปี ‘อาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป’ ในอนาคตเราอาจจะต้องทำงานไปจนถึงอายุ 70 หรือ 80 ปี เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ดังนั้นเราต้องกลับมาวางแผนการเงินในอนาคตให้ดี และสิ่งที่สำคัญคือ ต้องคิดในระยะยาว และพร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

  1. อาชีพเดิมที่หายไป Vs อาชีพใหม่ที่เกิดขึ้น

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
ทำให้งานบางอย่างอาจจะถูกแทนที่ด้วย AI

ดังนั้น การไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราพร้อมรับมือกับอนาคตได้

นอกจากนี้ เทรนด์งานที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นและ AI ทำไม่ได้ ก็คือ “งานที่ต้องใช้ความสามารถทางอารมณ์” ทักษะด้านการแก้ไขปัญหา และทักษะการทำงานเป็นทีม

  1. ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ และการตระหนักรู้ในตนเองจะมีความสำคัญมากขึ้น

การที่เราอายุขัยขยับไปเป็น 100 ปี ทำให้เราต้องหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และรักษาจิตใจให้อยู่ในเชิงบวก

นอกจากนี้ การตระหนักรู้ในตนเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนในจุดเด่นและจุดด้อยของตนเองเพื่อให้ทันต่อตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

  1. ชีวิต 3 Stage ที่ล้าสมัยไปแล้ว

การแบ่ง Stage ว่า: “วัยเรียน วัยทำงาน และวัยเกษียณ” อาจจะไม่เหมาะสมอีกต่อไป แต่เราต้องเลือก “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” แทน

การตัดสินใจของคุณในช่วงต้นของชีวิต
จะมีผลต่อเวลาที่เหลือในชีวิตของคุณ”

“การเดินหน้าตามฝูงไม่ใช่วิธีการที่จะสำเร็จ
เราแต่ละคนต้องไตร่ตรองว่า ตัวเราเองเป็นใคร?

จะสร้างชีวิต สะท้อนตัวตนและคุณค่าของเราได้อย่างไร?”

ลดความสำคัญเรื่องการทำงาน
แต่จงใช้ชีวิตที่ยาวนานมากขึ้นนี้ “ลองในสิ่งที่อยากทำ”
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หลากหลาย
และออกไปสำรวจดินแดนใหม่ๆ”

  1. รู้ว่าตัวเองเป็นใครและต้องการอะไร

“ครั้งสุดท้ายที่คุณนั่งลง และครุ่นคิดว่าคุณเป็นใคร
และต้องการอะไรจากชีวิตครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่?”

อาจดูเป็นคำถามที่แปลก แต่ความจริงก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจที่จะ “เข้าใจตัวเองเท่าไหร่” เมื่อเทียบกับเพื่อนฝูง หรือคนรัก

มันน่าแปลกใจว่า ขณะที่โลกพัฒนาจนทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก
แต่มันก็ทำให้สภาวะมนุษย์ซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน

มนุษย์ในยุคก่อนการปฏิวัติเกษตรกรรมมีแผนชีวิตที่ชัดเจนและเรียบง่าย เพียงแค่

  • พยายามเอาชีวิตรอดและสืบพันธุ์
  • สร้างและรักษาที่อยู่
  • รวบรวมและล่าอาหาร
  • ป้องกันและหลีกเลี่ยงภัยคุกคาม

แม้ว่ามันอาจจะฟังดูโบราณ แต่ก็มีความสง่างามในความเรียบง่าย ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรกับชีวิตตัวเอง

  • ไม่ต้องเจอความรู้สึกที่ว่า “สิ่งที่ทุ่มเทไปสูญเปล่า”
  • ไม่ต้องเจอภาวะ Burnout
  • ไม่ต้องค้นหาความหมายของชีวิต

แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องแลกก็คือ การเอาชีวิตรอดที่แสนยากเย็น
ชีวิตที่ทั้งสั้นและอันตราย

วันนี้เรามีความปลอดภัยกว่าอดีต แต่เรากลับหลงทางในชีวิต หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ความปรารถนาของพวกเขาคืออะไร?”

ในยุคปัจจุบันที่การศึกษา

  • ไม่ได้สอนพวกเขาถึงวิธีจัดการความมั่งคั่ง
  • ไม่ได้สอนพวกเขาถึงการเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ
  • ไม่ได้เตรียมพวกเขาให้เผชิญกับโลกภายนอก
  • ไม่ได้แนะแนวอาชีพต่างๆ ที่มากมายและแตกต่างกันไป

จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมในอายุ 100 ปีนี้ คุณจะต้องสำรวจและทดลองให้มาก “ลองการใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยว” และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ขาดความรับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องสำคัญต่อตัวคุณทั้งชีวิต

เรียบเรียงโดย The Library
Wannapaporn Angsurungseepan (โส่ย)

แชร์บทความนี้

บทความล่าสุด

NLP
ศาสตร์ NLP : สมรรถนะที่คุณควรรู้ เครื่องมือปลอดล็อกสมอง & จิตใต้สำนึก
ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความท้าทายของชีวิตประจำวัน เราต้องการเครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้เราปรับตัวและเติบโตไปพร้อมๆ...
อ่านต่อ...
Coaching
ศาสตร์แห่งการ Coaching ทักษะของผู้นำในศตวรรษที่ 21
ถ้าพูดถึง Coaching บางคนอาจนึกถึงคนที่เป็น “ไลฟ์โค้ช” ที่พูดคำคม หรือสอนแนวคิดให้คนฟัง แต่จริงๆ...
อ่านต่อ...
_wabi sabi
7 บทเรียนจากปรัชญา วะบิ- ซะบิ ความสุขของการยอมรับ "ความไม่สมบูรณ์แบบ"
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนรอบตัวดูสมบูรณ์แบบไปหมด “ยกเว้นตัวเราเอง” พอไถฟีดโซเชียล ก็จะเห็นแต่ทุกคนที่ดูมีความสุข...
อ่านต่อ...
บทความที่เกี่ยวข้อง
NLP
ศาสตร์ NLP : สมรรถนะที่คุณควรรู้ เครื่องมือปลอดล็อกสมอง & จิตใต้สำนึก
ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความท้าทายของชีวิตประจำวัน เราต้องการเครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้เราปรับตัวและเติบโตไปพร้อมๆ...
อ่านต่อ...
_wabi sabi
7 บทเรียนจากปรัชญา วะบิ- ซะบิ ความสุขของการยอมรับ "ความไม่สมบูรณ์แบบ"
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนรอบตัวดูสมบูรณ์แบบไปหมด “ยกเว้นตัวเราเอง” พอไถฟีดโซเชียล ก็จะเห็นแต่ทุกคนที่ดูมีความสุข...
อ่านต่อ...
14.10
12 นิสัยเล็กๆ ที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขี้น
. 12 นิสัยเล็กๆ ที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขี้น . 1. เก็บที่นอนตอนตื่น 2. ทำสิ่งสำคัญ 20% ที่สร้างผลลัพธ์...
อ่านต่อ...