“Some habits are more important than others
— they have the power to transform your life.”
นิสัยบางอย่างมีความสำคัญมากกว่านิสัยอื่นๆ
พวกมันมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ
อย่างที่ อริสโตเติล นักวิทยาศาสตร์ และนักปราชญ์กรีกโบราณ ได้กล่าวว่า
“Quality is not an act, it is a habit”
คุณภาพไม่ใช่การกระทำ แต่เป็นนิสัย
คุณ Charles Duhigg ผู้เขียนหนังสือ “The Power of Habit” ได้ให้ความสำคัญกับนิสัยที่เหนี่ยวนำให้เกิดนิสัยอื่น ๆ ตามมา ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “keystone habits”
keystone habits นี้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับนิสัยที่ดีอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
การออกกำลังกายเป็นประจำ ก็มักจะควบคู่ไปกับนิสัยการกินที่ดีขึ้น
Keystone ในความหมายเดิมว่า มันคือหินที่อยู่ข้างบนสุดของประตูทางโค้ง (arc) ซึ่งเป็นเสมือนลิ่มที่ยึดหินก้อนอื่นๆ เอาไว้ ดังนั้นเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคำว่า keystone habits แล้ว จึงสามารถแปลได้ว่า “นิสัยพื้นฐาน” ที่เป็นตัวยึดเหนี่ยว และเป็นพื้นฐานของนิสัยอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง
ในบทความนี้ทางเราจึงได้นำ นิสัยหลักพื้นฐาน 8 ประการที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณให้ดีขึ้นได้ มาให้เรียนรู้ไปพร้อมกัน
- ทานอาหารเย็นพร้อมกับครอบครัว
การที่ครอบครัวของคุณนั่งทานอาหารบนโต๊ะด้วยกันทุกเย็น อาจจะดูเล็กน้อย แต่สามารถส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่
ตามที่คุณ Duhigg ได้เขียนไว้ว่า
“ครอบครัวที่กินข้าวเย็นด้วยกันเป็นกิจวัตร
มีแนวโน้มที่จะเลี้ยงลูกให้มีทักษะในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น
ไม่ว่าจะในส่วนของการแก้ไขสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน
หรือในส่วนของการแก้โจทย์ปัญหาของการบ้านที่ได้รับ
มีเกรดที่สูงขึ้น การควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้น และความมั่นใจมากขึ้น”
- จัดเตียงนอนทุกเช้า ทันทีที่คุณตื่น
จากรายงานจาก Psychology Today พบว่า
การจัดเตียงนอนทุกเช้าของคุณ
มีความสัมพันธ์กับผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
ความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และทักษะการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ข้อมูลจาก Association for Applied Sport Psychology ระบุว่า
การออกกำลังกายสัมพันธ์กับอารมณ์ที่ดีขึ้น
ความเครียดน้อยลง ความมั่นใจที่มากขึ้น
และการนอนหลับที่ดีขึ้น
โดยเวลาที่ออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่มีชื่อว่า “เซโรโทนิน” ออกมามากขึ้น โดยเซโรโทนินมีความสำคัญต่อระบบสมองอย่างมาก เนื่องจากทำหน้าที่หลักในการควบคุมอารมณ์ บางครั้งจึงถูกเรียกว่าสารเคมี “ที่ทำให้รู้สึกดี” ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุข สงบ มีสมาธิ และมีความมั่นคงทางอารมณ์
- คอยติดตามสิ่งที่คุณกิน
คุณ Duhigg อ้างถึงการศึกษาในปี ค.ศ. 2009 จาก National Institutes of Health ซึ่งผู้เข้าร่วมที่มีการใช้ food journals หรือไดอารี่ “อาหาร” ประจำวัน สามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่มี
ซึ่งมันคือการบันทึก เพื่อให้คุณได้ตระหนักว่า แต่ละวันคุณกินอะไรไปบ้าง คุณจะเริ่มเห็นกิจวัตรการกินของตัวเอง และทำให้คุณรู้ว่าต้องจัดการตัวเองต่อไปอย่างไร
- พัฒนากิจวัตรประจำวัน
“วิธีที่เราจัดระเบียบความคิด และกิจวัตรการทำงาน
มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน
ความมั่นคงทางการเงิน และความสุขของเรา”
– คุณ Duhigg ได้กล่าวไว้ในหนังสือ
เช่น คุณตื่นนอนเวลา 7.00 น. ทุกเช้า ชงกาแฟ และอ่านหนังสือ
หากทำกิจวัตรเหล่านี้ซ้ำ ๆ วันแล้ววันเล่า
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ในการเริ่มต้นวันใหม่
- การนั่งสมาธิ
การทำสมาธิในตอนเช้า สามารถช่วยให้จิตใจของคุณผ่อนคลายได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้การนั่งสมาธิยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
เช่น ความดันโลหิตลดลง และระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ การทำสมาธิจะช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่ทำในปัจจุบันได้มากขึ้น
ซึ่งคนที่เก่งหรือเรียนรู้เร็ว
พวกเขาเหล่านั้นมีพื้นฐานมาจาก
การที่โฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าผู้อื่น
นั่นคือ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีสิ่งรบกวนเข้ามา พวกเขาก็ยังคงสามารถจดจ่อและโฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้
- วางแผนตารางในแต่ละวันของคุณ
ลองนั่งลงสัก 2-3 นาที แล้วใช้เวลานั้นทำ To do list สำหรับวันถัดไปของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเน้นย้ำและจดจ่อกับงานที่สำคัญที่สุดได้
เพราะเมื่อคุณรู้ว่าในแต่ละวันคุณต้องทำอะไรบ้าง
แสดงว่าคุณก็จะทราบเช่นกันว่า “ตัวคุณว่างช่วงเวลาใดบ้าง”
ดังนั้น คุณสามารถจัดสรรเวลาที่คุณว่างนั้น ให้กับการทำนิสัยหลักพื้นฐานที่ดีข้ออื่น ๆ ได้ด้วย
เช่น การออกกำลังกาย หรือการทำสมาธิ
- มีพลังแห่งความปรารถนาที่แข็งแกร่ง
คุณ Duhigg กล่าวว่า
“ผลการศึกษาหลายสิบชิ้นแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่น
เป็นนิสัยหลักที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว
สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จ”
อ้างอิงจากเว็บไซต์
Businessinsider.com, ผู้เขียน Steven Benna