4 ข้อคิด พลังแห่งการไม่ทำอะไรเลย (The power of doing nothing at all)

ขณะที่จระเข้แก่ตัวลอยคออยู่ริมตลิ่ง ซึ่งเป็นจังหวะที่จระเข้หนุ่มว่ายเข้ามาหา แล้วพูดขึ้นมาว่า

“ข้าได้ยินมาจากหลาย ๆ คน ว่าท่านเป็นนักล่าที่ดุร้ายที่สุดในแม่น้ำแห่งนี้
ได้โปรดสอนวิธีของท่านให้ข้าด้วย”

หลังจากงีบหลับยามบ่ายอันยาวนาน จระเข้แก่เหลือบมองจระเข้หนุ่มโดยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงหลับไปบนผืนน้ำอีกครั้ง

จระเข้หนุ่มรู้สึกผิดหวัง และเลิกเคารพจระเข้แก่ จากนั้นจึงว่ายไปบนน้ำเพื่อไล่จับปลาดุก
“ข้าจะแสดงให้เจ้าดู” เขาคิดในใจกับตัวเอง

ในวันนั้นเอง จระเข้หนุ่มกลับไปหาจระเข้ตัวเก่าที่ยังคงหลับอยู่ และเริ่มคุยโม้เกี่ยวกับการล่าที่ประสบความสำเร็จของเขา

“วันนี้ข้าจับปลาดุกได้ตั้ง 2 ตัวใหญ่ แล้วท่านจับอะไรได้บ้าง ไม่มีงั้นหรือ??
บางทีท่านก็อาจไม่ได้ดุร้ายขนาดนั้น”

จระเข้แก่เหลือบมองไปที่จระเข้หนุ่มอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร แล้วหลับตาลง ลอยอยู่บนผิวน้ำ เป็นอีกครั้งที่จระเข้หนุ่มโกรธที่ไม่ได้รับคำตอบ จึงว่ายทวนกระแสน้ำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อดูว่าจะล่าอะไรได้บ้าง

หลังจากตามหาอยู่หลายชั่วโมง เขาก็สามารถตามล่านกกระเรียนตัวเล็กได้ เขายิ้มและเก็บนกไว้ในปากของเขา จากนั้นว่ายกลับไปหาจระเข้ตัวเก่า และยืนกรานว่าจะแสดงให้เขาเห็นว่าใครคือนักล่าที่แท้จริง

ขณะที่จระเข้หนุ่มเลี้ยวโค้ง ก็เห็นจระเข้แก่ยังลอยอยู่ที่เดิมบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ, อย่างไรก็ตาม มันมีบางอย่างเปลี่ยนไป

วิลเดอบีสต์ตัวใหญ่ กำลังเพลิดเพลินกับการดื่มน้ำยามบ่าย
ซึ่งใกล้กับหัวจระเข้แก่เพียงไม่กี่นิ้ว
ในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด
จระเข้แก่พุ่งขึ้นเหนือน้ำ
โอบขากรรไกรของมันไว้รอบตัววิลเดอบีสต์
และดึงมันลงไปใต้แม่น้ำ

จระเข้หนุ่มที่กำลังว่ายมาพร้อมกับนกตัวเล็ก รู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น และเฝ้าดูขณะที่จระเข้แก่เอร็ดอร่อยกับอาหารหนัก 500 ปอนด์ของมัน

จระเข้หนุ่มถามเขาว่า

“ได้โปรด… บอกข้าที…ว่า… ท่านทำเช่นนั้นได้อย่างไร”

จระเข้แก่ตอบในที่สุด

I did nothing.
“ฉันไม่ได้ทําอะไรเลย”

นิทานเรื่องนี้สอนอะไรให้แก่คุณ?
ในบทความนี้ ทางเราจะมาถอดบทเรียนให้เรียนรู้ไปด้วยกัน


1.”จงทำสิ่งสำคัญแทนที่จะยุ่งอยู่กับการโอ้อวด”


2.”โรค ‘ยุ่งมาก’ ที่กำลังกลืนกินผู้คน”

ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? “โอ้ ช่วงนี้ยุ่งมากเลย!”

เราเติบโตขึ้น และเผลอวัดค่าของคนๆ หนึ่งโดยไม่รู้ตัว
โดยพิจารณาจากจำนวนชั่วโมง
ที่พวกเขาทำงาน และเวลาที่เหลือในจาน


ในหนังสือ 4-Hour Work Week ของ Tim Ferriss ได้เย้ยหยันแนวคิดนี้โดยพูดอย่างมีเลศนัยว่า

“ถ้าคุณต้องการเลื่อนตำแหน่ง
คุณควรทำตัวให้ยุ่งมากขึ้น
ด้วยการทำงานหลายชั่วโมงให้นานขึ้น
วุ่นวายไปทั่ว และตอบอีเมลตลอดเวลา”

แต่ไม่ช้าก็เร็ว เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่เราต้องการคืออะไร?

ยุ่งที่สุด หรือ สร้างผลกระทบได้มากที่สุด?

 

3.”พลังแห่งการไม่ทำอะไรเลย”

การหาเวลาในชีวิตของคุณ เพื่อใช้ไปกับการ “ไม่ทำอะไรเลย” อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์การทำงานที่เราถูกรุมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องด้วยการประชุม การแจ้งเตือน และลิสงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทางเราจึงมีเรื่องเล่าหนึ่งของคุณบิล เกตส์ เขาได้แชร์ว่า

เขามีความเชื่อต่อสิ่งที่เรียกว่า Think week
หรือก็คือ หลักของการทำงานหนัก
“แล้วต้องได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”

เขาคิดค้นสูตรการลาพักผ่อนของตัวเองที่เรียกว่า Think Week มาตั้งแต่ปี 1980 เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ปีละ 2 ครั้ง โดยเชื่อว่า การพักผ่อนที่เต็มที่นั้น จะทำให้ได้ทบทวนความคิด เสริมประสิทธิภาพให้กับการทำงาน โดยเฉพาะด้านการตัดสินใจเมื่อต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง

การทำงานสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิต: ถ้างานมันยุ่งเหยิงเสียจนเราไม่มีเวลากลับมามองตัวเอง บางครั้งแค่ตอเล็ก ๆ ซึ่งข้ามได้สบาย ๆ ก็อาจทำให้เราสะดุด และสร้างแผลขนาดใหญ่ให้ได้เหมือนกัน

ดังนั้น การเบรกชั่วขณะเพื่อถอยออกมาจากมุมที่ยืนอยู่ อาจสร้างทางออกที่ดีกว่าให้ได้

ทุกวันนี้ บิล เกตส์ ยังกล่าวถึงความสำเร็จของ Microsoft ว่า

“เขามักได้คอนเซปต่างๆ และแนวคิดที่ยิ่งใหญ่

มาจากตอนที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย

 

4.”วิธีการใช้ช่วงเวลาของการไม่ทำอะไรเลย”

เชื่อว่าบางคน อาจจะไม่สามารถลาหยุดทั้งสัปดาห์ เพื่อไป Think Week แบบคุณบิล เกตส์ได้ ฉะนั้นทางเราจึงมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นมาฝากคุณ นั่นคือ

ให้ตั้งวัน digital sabbath ขึ้นมา
ในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ก็ได้
เป็นการที่คุณหลีกเลี่ยง
เทคโนโลยีดิจิทัลทุกรูปแบบ
จำนวน 1 วัน / สัปดาห์

เป้าหมายคือ

  • เพื่อลดเวลาหน้าจอลง
  • เพื่อที่คุณจะได้ใช้เวลานั้น ใคร่ครวญถึงสิ่งที่ผ่านมา
  • ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูงมากขึ้น
  • ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป
  • หรืออาจจะแค่พักผ่อน

ในขณะที่เราบอกตัวเองว่า: เราสามารถประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ด้วยการแย่งชิง อดทนพยายาม หรือตะเกียกตะกาย

แต่ในบางครั้ง, การหลับตาแล้วปล่อยจิตใจให้พักผ่อน เพื่อเตรียมพร้อมต่อโอกาสและจังหวะเวลาที่จะเข้ามา เหมือนวิลเดอบีสต์ที่ปรากฏตัวต่อจระเข้แก่ตัวนั้นอาจจะดีกว่าก็เป็นได้

 

อ้างอิงข้อมูลจาก
เว็บไซต์ medium.com, ผู้เขียน Aytekin Tank

แชร์บทความนี้

บทความล่าสุด

NLP
ศาสตร์ NLP : สมรรถนะที่คุณควรรู้ เครื่องมือปลอดล็อกสมอง & จิตใต้สำนึก
ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความท้าทายของชีวิตประจำวัน เราต้องการเครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้เราปรับตัวและเติบโตไปพร้อมๆ...
อ่านต่อ...
Coaching
ศาสตร์แห่งการ Coaching ทักษะของผู้นำในศตวรรษที่ 21
ถ้าพูดถึง Coaching บางคนอาจนึกถึงคนที่เป็น “ไลฟ์โค้ช” ที่พูดคำคม หรือสอนแนวคิดให้คนฟัง แต่จริงๆ...
อ่านต่อ...
วะบิซะบิ_wabi sabi
7 บทเรียนจากปรัชญา วะบิ- ซะบิ ความสุขของการยอมรับ "ความไม่สมบูรณ์แบบ"
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนรอบตัวดูสมบูรณ์แบบไปหมด “ยกเว้นตัวเราเอง” พอไถฟีดโซเชียล ก็จะเห็นแต่ทุกคนที่ดูมีความสุข...
อ่านต่อ...
บทความที่เกี่ยวข้อง
NLP
ศาสตร์ NLP : สมรรถนะที่คุณควรรู้ เครื่องมือปลอดล็อกสมอง & จิตใต้สำนึก
ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความท้าทายของชีวิตประจำวัน เราต้องการเครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้เราปรับตัวและเติบโตไปพร้อมๆ...
อ่านต่อ...
วะบิซะบิ_wabi sabi
7 บทเรียนจากปรัชญา วะบิ- ซะบิ ความสุขของการยอมรับ "ความไม่สมบูรณ์แบบ"
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนรอบตัวดูสมบูรณ์แบบไปหมด “ยกเว้นตัวเราเอง” พอไถฟีดโซเชียล ก็จะเห็นแต่ทุกคนที่ดูมีความสุข...
อ่านต่อ...
14.10
12 นิสัยเล็กๆ ที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขี้น
. 12 นิสัยเล็กๆ ที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขี้น . 1. เก็บที่นอนตอนตื่น 2. ทำสิ่งสำคัญ 20% ที่สร้างผลลัพธ์...
อ่านต่อ...