ถ้านับจากปีใหม่ 2566 ตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว New Year’s resolutions ที่เคยตั้งไว้ว่าอยากทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้
ตอนนี้คุณทำไปได้เท่าไหร่แล้ว?
บางคนอาจจะตั้งใจว่า จะดื่มน้ำให้มากขึ้น / จะเข้ายิม /จะลดเล่นโซเชียลและอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น แต่พอถึงกลางปี พวกเรากลับแทบจำไม่ได้เลยว่า ‘เคยได้ตั้งปณิธานอะไรไว้’ นั่นเป็นเพราะปณิธานของคุณ ‘คลุมเครือเกินไปนั่นเอง’
ดังนั้น ในบทความนี้ ทางเราจะมาแชร์ 17 นิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้ชีวิตคุณในปี 2023 แตกต่างจากที่เคยเป็นมา
1.“อย่าเข้านอนพร้อมครัวที่สกปรก”
การมีห้องครัวที่สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนเข้านอนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้คุณสบายใจ แต่ยังช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากสัตว์รบกวน เช่น มด แมลงสาบ
นอกจากนี้ คุณจะรู้สึกมีระเบียบมากขึ้น และพร้อมที่จะรับมือกับงานในวันถัดไป
2.“จอดรถให้ห่างจากบ้าน / ที่ทำงานของคุณ
อย่างน้อย 1 กิโลเมตร”
จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า
เพื่อสุขภาพที่ดี ผู้ใหญ่ควรเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าว/วัน
ซึ่งการจอดรถของคุณห่างจากบ้าน หรือที่ทำงานของคุณอย่างน้อย 1 กิโลเมตร จะเป็นการบังคับให้คุณต้องเดินเพื่อไปขึ้นรถ ซึ่งก็ราวๆ เกือบ 3,000 ก้าวทีเดียว
3. “กฎ 1 นาที”
Gretchen Rubin ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง “The Happiness Project” เขียนไว้ว่า
หนึ่งในวิธีง่ายๆ ซึ่งอยู่เหนือสิ่งต่างๆ นั่นคือ
ดูแลงานที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
“ให้เสร็จทันที”
เช่น การเอาเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นไปใส่ตะกร้า จัดการอีเมลขยะ ตอบกลับข้อความ ลงนัดตารางการประชุม เอาขยะในห้องออกไปทิ้ง ฯ
งานเล็กๆ เหล่านี้อาจดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่มันสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นงานล้นมือหากเราไม่ใส่ใจที่จะทำ
4. “A Small Zipper Bag Hack”
ความหิว ส่งผลโดยตรงต่อสมอง
หากเราถึงจุดที่อดอยากหิวโหย
อาจทำให้เผลอกินเกือบทุกอย่างโดยไม่คิดได้
ดังนั้น หากอยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ควบคุมน้ำหนัก และคุมอาหารอย่างที่คุณตั้งใจไว้ แนะนำว่าให้ลองพก snack ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น บาร์ธัญพืช ถั่วหรือผลไม้แห้ง ใส่กระเป๋าเล็กๆ ติดตัว สิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณเผลอทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แถมสิ่งที่คุณทานยังมีประโยชน์ ให้โปรตีนสูง และมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพด้วย
5.“ใช้ไหมขัดฟัน” (ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที)
การใช้ไหมขัดฟันเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน จะช่วยทำความสะอาดฟันที่เข้าถึงยาก เช่น ฟันกรามซี่ใน ซึ่งการแปรงฟันธรรมดาอาจทำความสะอาดไม่ถึง
นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันฟันผุ หรือกลิ่นปาก ที่อาจะเกิดจากการหมักหมมของเศษอาหารตามซอกฟัน และช่วยลดการสะสมของหินปูน
6.“จัดที่นอนตอนเช้า”
Dr. Randall Bell นักเศรษฐศาสตร์สังคมศาสตร์ ผู้ศึกษาพฤติกรรมของคนที่ประสบความสำเร็จมากว่า 25 ปี เคยกล่าวไว้ในการสัมภาษณ์ CNBC ของเขาว่า
“ผู้ที่ทำงานบ้าน และจัดที่อยู่อาศัยให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
มีแนวโน้มที่จะทำเงินได้มากกว่า”
และผู้ที่จัดที่นอนในตอนเช้า มีโอกาสเป็นเศรษฐีมากถึง 206.8 % แม้ดูเหมือนเป็นนิสัยเล็กๆ น้อยๆ แต่มันให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จและความภาคภูมิใจ ชัยชนะเล็กน้อยเช่นนี้ในตอนเช้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณไปตลอดทั้งวัน
7.“นับ 1-10 ในหัว ก่อนจะตอบคำถามที่ไม่คาดคิด”
Out of the blue เป็นสำนวนเหมือนคนไทยที่ว่า ‘โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้’
ในสถานการณ์เช่นนี้ เรามักเสียใจที่พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีคนถามคำถามแบบไม่คาดฝัน แทนที่คุณจะโพล่งออกไปทันทีโดยไม่คิด: ให้หยุดคิด – อย่างน้อยสัก 10 วินาที เพื่อให้คุณมีเวลาประมวลผล และสามารถคิดหาคำตอบที่เหมาะสมได้
8.“ทบทวนเป้าหมายของตน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง”
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในระหว่างวัน ซึ่งมักเบนความสนใจเราออกจากแรงจูงใจหลัก ดังนั้นการทบทวนเป้าหมายของเรา อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง จะช่วยให้เราสร้างแผนใหม่ และปรับสิ่งต่างๆ ให้เหมาะกับชีวิตเรา
“จิตใจที่มีสมาธิ”
สามารถทำงานได้เร็วกว่าสมองที่สับสนถึง 100 เท่า
ดังนั้น เราจึงควรโฟกัสที่แรงจูงใจ และวัตถุประสงค์ของเราในทุกๆ วัน
9) “J-a-M-Ming นั่งสมาธิแค่ 1 นาที” (ทุกๆ ชั่วโมง)
J-a-M-Ming ย่อมาจาก just a minute, meditating. (every hour)
มีเรื่องเครียดมากมายเกิดขึ้นในระหว่างวัน ซึ่งการแบ่งเวลาทั้งวันออกเป็นชั่วโมงเล็กๆ เป็นเรื่องที่ง่าย และเราทุกคนทำตามได้อย่างแน่นอน
ในระหว่างการทำสมาธิ 1 นาทีนั้น
ให้คุณไตร่ตรองถึงความวิตกกังวลใด ๆ (สำหรับชั่วโมงที่ผ่านมา)
เทคนิคนี้ช่วยให้ความเครียดที่สะสมในจิตใจลดลง
10.“นึกถึงสิ่งดีๆ 1 อย่าง ในแต่ละวันของคุณ”
เรื่องบวกและเรื่องลบล้วนเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเรามักเก็บความคิดเชิงลบ และย้ำคิดย้ำทำอยู่ในใจ
ดังนั้น ให้คุณลองตั้งโฟกัสเฉพาะด้านบวก
โดยการพยายามนับข้อดีอย่างน้อย 1 อย่างในแต่ละวัน
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกถึงการขอบคุณ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
11.“ให้จิบน้ำ หลังวางสายโทรศัพท์”
ร่างกายมนุษย์ มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70
ในเลือด – มีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 92
ในสมอง – มีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 85
แม้เราทุกคนทราบความสำคัญของการดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่เราไม่สามารถดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวันได้
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า เราควรจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน แม้ว่าเราจะไม่กระหายน้ำก็ตาม
12.“Budgeting Rule แบ่งเงิน 50–30–20”
- รายได้ 50% ไว้ใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น เช่น ซื้อของอุปโภคบริโภค บิลต่างๆ
- รายได้ 30% ไว้ใช้จ่ายกับสิ่งที่ต้องการ เช่น กิจกรรมยามว่าง
- รายได้ 20% ที่เหลือไว้ออม เช่น ลงทุนเพื่ออนาคต เงินออมเผื่อฉุกเฉิน ฯลฯ
13.“ลงจากลิฟต์ 1 ชั้น ก่อนถึงที่หมาย”
งานวิจัยจาก Duke University กล่าวว่า
การเดินขึ้นบันได 2 เที่ยวต่อวัน
เป็นการออกกำลังกายที่เพียงที่ทำให้คุณมีรูปร่างที่ดี
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ประเภทนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ยังปรับปรุงระบบเผาผลาญของคุณด้วย
14.”ห้ามใช้โทรศัพท์ เมื่อทานอาหาร”
ระหว่างมื้ออาหาร เรามักจะตรวจสอบอีเมล หรือแชทที่ทำงาน หรือสื่อคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย นั่นทำให้ความสุขในการทานอาหารหายไป รวมทั้งนำไปสู่การกินที่มากเกินไปและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
ดังนั้น ลองสร้างขอบเขตให้ตัวเอง
ไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ในระหว่างมื้ออาหาร
สิ่งนี้จะช่วยให้มีสมาธิกับสิ่งที่กิน
นอกจากนี้ยังทำให้คุณได้มีเวลาพูดคุย และแบ่งปันช่วงเวลากับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ขณะรับประทานอาหารอีกด้วย
15.“ปิดเสียงการแจ้งเตือนทั้งหมด”
การปิดเสียงการแจ้งเตือนทั้งหมดจากโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันอื่นๆ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงาน ทำให้คุณจดจ่อกับสิ่งที่สำคัญที่สุดได้
16.”ออกกำลังกาย 60 วินาที เมื่อจะเข้าห้องน้ำ”
The 60-second workout rule หรือ กฎการออกกำลังกาย 60 วินาที มีอยู่ว่า: ทุกครั้งที่คุณจะเข้าห้องน้ำ ให้ทำกิจกรรมเพื่อขยับร่างกายอย่างน้อย 60 วินาทีก่อน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ มีตั้งแต่การยืดกล้ามเนื้อง่ายๆ ไปจนถึงการ squats และ jumping jacks (กระโดดตบ)
นิสัยนี้ช่วยให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงตลอดทั้งวัน ได้เพิ่มเวลาออกกำลังกาย และมีความยืดหยุ่นของร่างกายที่เพิ่มขึ้น
17.“ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอก”
มีงานวิจัยกว่า 10,000 ชิ้น ที่บอกถึงอันตรายของแสงแดด
หนึ่งในความอันตรายนั้นก็คือ เมื่อโดนแดดจัด ๆ นาน ๆ และสม่ำเสมอ มีโอกาสทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ เนื่องจากรังสี UV เข้าทำลายลำดับเบสบนสาย DNA ทำให้ลำดับเบสนั้นผิดเพี้ยน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ผิวหนัง
ดังนั้น ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็น ก่อนที่คุณจะออกไปทำธุระนอกบ้าน
อ้างอิงข้อมูลจาก
เว็บไซต์ medium.com, โดยผู้เขียน Darshak Rana